Status

LOVE LOVE LOVE LOVE LOVE

Wednesday, April 20, 2011

สัตว์เลี้ยงแสนรัก (ตอนที่สอง)

จริงๆ แล้ว พี่หนุ่มเนี๊ยะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ blog นี้ที่สุดเลย แต่อ่านอย่างเดียว ไม่เคยจะพิมพ์ตอบเลย (ก็อยู่ด้วยกันนินา) แต่จะคอยแย๊บๆ มาเป็นระยะว่า น้องโบว์ไม่ update เลย พี่หนุ่มชอบอ่านมาก ย้อนดูอันเก่าๆ ก็มีความสุข แอบจะภูมิใจในตัวเองด้วยใช่มั๊ยล่ะ 555

ขอพูดถึงซะหน่อย สำหรับผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ต่อภาคสอง (เม้าท์ เม้าท์)

ต่อภาคสองนะคะ สัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ ของเราก็ยังเป็นเจ้าหนอนตัวเขียวอ้วนพีเหมือนเดิมค่ะ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะเล่าเรื่องน้องโจไต๋ดีรึเปล่า เพราะจะมีโศกนาฏกรรมแสนเศร้าเกิดขึ้นด้วยนะสิคะ แต่ในเมื่อมีตอนแรกไว้แล้ว ก็จะไม่มีตอนสองได้ยังไงใช่มั๊ยคะ คิ คิ

เริ่มต้นเรื่องมาจากการปลูกแพงพวยของน้องโบว์นั่นเอง แพงพวยจะมีสองแบบ แบบไทยๆ เราก็จะเป็นต้นที่เราเห็นตามข้างทาง อีกแบบจะเป็นของต่างชาติ เค้าจะเรียกกันว่าแพงพวยเลื้อยค่ะ เนื่องจากตามร้านขายแพงพวยเลื้อยกระถางนึงแพงมากๆ บางร้านขายเป็นกระถางร้อยเลย ทำให้น้องโบว์เกิดไอเดียปลูกเองซะเลยตามที่ได้เคยเล่าแล้ว ตอนไหนน๊าาาาาา

แต่เนื่องจากเป็นคนปลูกต้นไม้ไม่เก่งเลย ทำให้แสนจะทุลักทุเล แต่เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ที่ซื้อมาของเค้าดีจริง (ของ AFM โฆษณาให้เค้าซะหน่อยนึงค่ะ) อัตราการงอกสูงมากๆ อย่างที่เค้าว่าไว้ แต่... แต่... แต่... อัตราการโตสิคะ มันอยู่ที่คนปลูกอย่างเรา ^^" ปลูกเท่าไหร่งอกหมดเลยค่ะ ดีใจ แต่ซักพักก็ค่อยๆ ตาย เหลืออยู่ไม่กี่ต้น แต่ก็เอาเถอะนะยังที่ที่รอดมาได้ 555


นี่ไงคะ ถ้าโตได้ขนาดนี้ส่วนใหญ่จะรอดแล้วค่ะ แต่ต้นด้านหลังนี่ร่อแร่ๆ ยังไงไม่รู้ ปลูกพร้อมกันนะเนี่ย


แต่ก็ไม่รู้เป็นยังไง พอโตได้ขนาดประมาณนี้มันก็จะชะงักไปเลย ไม่โต เอาใจไม่ถูกเลยค่ะ ง๊งงง เป็นเดือนๆ ก็โตแค่นี้ จนถอดใจ แต่เอ๊ะ พอไปปฏิบัติธรรมกลับมาไหวพุ่งพรวดยายเฟื้อย เป็นอย่างงี้มาสองรอบแล้ว สงสัยจะเบื่อหน้าคนปลูกนะคะ ก็เลยไม่ยอมโตเลย หุ หุ



นี่ค่ะ เป็นยังไง ฝีมือการปลูก ออกดอกด้วยนะ
ถึงแม้จะไม่ฟูฟ่อง เหมือนที่ร้านเค้าขาย แต่ก็ภูมิใจนะเนี่ย

แต่ดีใจอยู่ได้ไม่นานนัก วันดีคืนดี อ้าวทำไมแพงพวยสุดสวยของข้าพเจ้าถึงได้โกร๋น แหว่งๆ อย่างงี้ละเนี่ย พิศไปพิศมา จะเป็นลม หนอนตัวเบ่อเร่อ ตัวใหญ่จริงๆนะคะ แรกๆ ก็กลั๊วกลัว มันตัวใหญ่มาก หลังๆ เริ่มจะชินแล้วค่ะ ดูไปดูมาก็น่ารักดี ยืนดูเค้ากิน ปื๊ด ปื๊ด ปื๊ด หมดใบ กินแล้วก็อึ๊ ออกมาก อึ๊ก็ส๊วย สวย เป็นรูปเหมือนดอกไม้เลย


ตอนนี้หนูตัวเล็กอยู่ หางแหลมๆ อย่างงี้แหละค่ะ
แต่หนูก็กินเก่งนะจ๊ะ แต่ไม่เปลืองมากหรอกจ๊ะ


หนูเริ่มโตแล้ว อวบอ้วนมั๊ยละคะ หางหนูก็จะกลมๆ อย่างงี้


ดูดิ อุ๊ยอ๊าย น่ารักมากเลย ขางี้กลมบล๊อก หนีบกิ่งแพงพวยเอาไว้ซะแน่นเลย
อันนี้ทำท่าหนีภัยอยู่ อย่ามากวนเค้าน๊าาา



เอาหนูกินไปไม่บันยะบันยัง หมดต้นสิคะ ในรูปจะเห็นว่ามีสองตัวค่ะ



โอแม่เจ้า แพงพวยของช๊าาาาน ล่อซะเรียบเลย

เจ้าหนอนน้อยมารุ่นแล้ว รุ่นเล่า รุ่นแล้วรุ่นเล่า ทำให้แพงพวยงอกคืนมาไม่ทันเลย รุ่นแรกกินก็เกือบจะหมดต้นแล้ว พอน้องโจไต๋เริ่มหน้าเหลืองๆเข้มๆ แล้ว วันต่อมาเค้าก็จะหายตัวไปเลย ลองสืบค้นดูแล้วพบว่าหนอนชนิดนี้จะเป็นดักแด้โดยการมุดลงไปใต้ดิน หรือหาอะไรมาปิดตัวก่อนจะกลายเป็นดักแด้ เราก็เลยไม่เคยได้เห็นซะที เคยเห็นแต่เปลือกดักแด้ ตอนนั้นรื้อกระถางแพงพวยที่ตายเรียบออก เจอเปลือกเค้าอยู่อันนึง ส่วนตัวอื่นๆ ไม่รู้ไปเป็นดักแด้ที่ไหนกันบ้าง หนอนชนิดนี้จะกลายเป็นผีเสื้อกลางคืนตัวใหญ่ Oleander Hawk-moth ไม่เคยเห็นตัวเลยค่ะ สงสัยจะทำตัวเนียนมากๆ

มีอยู่รุ่นนึงกินเรียบจนไม่เหลืออะไรจริงๆ ตัวก็ยังไม่โตเต็มที่ แถมยังมีตัวเล็กๆ อีกสี่ห้าตัว เราเลยเอาตัวเล็กๆ ไปใส่ไว้ที่ต้นแพงพวยไทย แต่สุดท้ายก็ไม่รู้หายไปไหนหมด โดนเอาไปกินหมดแล้วรึเปล่าก็ไม่รู้ (แต่ดูๆ ไปตัวมันก็น่ารักน่ากินจริงๆ นั่นแหละ แหะๆ ) ส่วนตัวใหญ่ๆ เอาไปใส่ไว้ในกล่องพลาสติก เอาผ้าขาวบางปิดไว้ แล้วก็เอาแพงพวยไทยให้กิน แต่ดูเหมือนเค้าจะไม่ชอบ คงไม่อร่อยสินะ ^^ ด้วยความหวังดี ตัดสินใจไปซื้อแพงพวยเลื้อยราคาแพงมา สองกระถาง จะได้กินกันให้เต็มที่ไปเลย (ซื้อเอามาเลี้ยงหนอนโดยเฉพาะ ประหลาดมั๊ยเนี่ย บ้านเรา)



สองกระถางสุดสวย พุ่มเบ่อเร่อเลย เอากินกันให้หนำใจไปเลย

แต่ด้วยความที่น้องโบว์สงสัยอย่างแรงว่า ทำไมร้านเค้าสวยได้ขนาดนี้ แล้วไม่มีหนอนได้ไง ต้องใส่ยาฆ่าแมลงแน่ๆ ก็เลยตัดเอาเป็นกิ่งๆ ไปแช่น้ำยาล้างผักผลไม้ นานเป็นครึ่งชั่งโมง เอามาให้น้องกิน


อยู่ในนี้ไม่ค่อยสบายเลย ดูซึมๆ เพราะอะไรน๊าาาา

แรกๆ น้องเค้าก็กิน แต่ไปๆ มาๆ ก็ซึมๆ กินน้อยลง น้อยลง เป็นไรมากรึเปล่าก็ไม่รู้ พี่หนุ่มก็บอกว่าคงเป็นเพราะเราเอามาเลี้ยงในนี้เค้าก็เลยอึดอัดไม่ชอบ เอาไปใส่ในต้นที่ซื้อมาเลยดีกว่า น้องโบว์ก็เครียดเลย แล้วถ้ามียาฆ่าแมลงล่ะ ทำไงดี ทำไงดี แต่ดูแล้ว เค้าซึมลง ซึมลง มากๆ ก็เคยคิดว่า ถ้าไว้อย่างงี้ก็ตายแน่ๆ ยังไงลองปล่อยเค้าดู แล้วแต่บุญแต่กรรมก็แล้วกัน ....

เป็นเรื่องเลยค่ะ อยากจะบอกว่า น้องเค้าน่าสงสารมากๆเลยนะคะ ใครใช้ยาฆ่าแมลงนี่ใจร้ายมากๆ เราเห็นอาการที่เค้าเป็นทรมานมากๆ ช่วยอะไรก็ไม่ได้ อย่าให้บรรยายเลย รันทดสุดๆ สรุปก็คือ เค้าคงได้รับผลกระทบจากยาฆ่าแมลงตั้งแต่ที่เราล้างให้แล้ว แต่มันคงแรงมากๆ ล้างนานแล้วก็ไม่หมด ทำให้ซึมลง ซึมลง พอไปอยู่ที่ต้นเลยหนักเข้าไปใหญ่ TT^TT ไปสุ่สุขคตินะจ๊ะ เป็นเวรเป็นกรรมอะไรก็ไม่รู้

ณ ปัจจุบัน น้องโจไต๋ ก็ยังวนเวียน มาเขมือบแพงพวยอยู่เป็นระยะ ทำให้ไม่เป็นพุ่มสวยเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ แต่เราก็ชอบแบบนี้มากกว่า สุขใจกว่าเป็นไหนๆ ... จริงมั๊ยคะ ^^

Wednesday, March 16, 2011

สัตว์เลี้ยงแสนรัก (ตอนที่หนึ่ง)

ไม่ได้เขียน Blog ซะนานเลยค่ะ มี รูป และเรื่องราวต่างๆ มากมายที่เก็บเอาไว้ ทั้งอยู่ในคอมฯ และอยู่ในใจ จะค่อยๆ ดึงออกมา บอกเล่ากันนะคะ แฟนๆ @^^@

ตอนนี้มีข่าวคราวความสูญเสียเนื่องจากภัยธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา แต่แค่เรายอมรับและเข้าใจ ก็อยู่เป็นสุขต่อไปได้ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าฟันไปด้วยดีนะคะ

เอาละค่ะ มาเข้าเรื่องกัน .....

ตั้งแต่เราสองคนอยู่ด้วยกันมา เราก็ไม่ได้มีสัตว์เลี้ยงอย่างคนอื่นเค้า ด้วยที่อยู่อาศัยที่เป็นคอนโด ทำให้ได้เลี้ยงอย่างมากก็แค่ปลาทอง ปลาหางนกยูงค่ะ จำได้ว่าตอนที่หัดเลี้้ยงใหม่ๆ ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หาความรู้ในการดูแลอย่างมากมาย ด้วยความไม่รู้ ทำให้น้องๆ ต้องตายไปหลายตัวเลย T^T

ตอนนี้มาอยู่บ้านแล้ว ใจจริงเป็นความใฝ่ฝันของน้องโบว์เลยที่จะมีสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ อย่าง สุนัขพันธุ์ปอมฯ บีเกิล ฯลฯ หรือ แมวขนสวยๆ ไม่ก็กระต่าย แต่ก็เป็นได้แค่ฝันนะคะ เพราะมีคนคอยช่วยดับฝันตลอด 555 เมื่อไหร่ที่อยาก พี่หนุ่มก็จะคอยเตือนสติ ว่าเราจะดูแลเค้าได้ดีมั๊ย ดูอย่างบ้านนั้น บ้านนี้สิ แรกๆ ก็รัก ดูแลอย่างดี พอซักระยะก็ปล่อยปละ ละเลย น่าสงสาร ถ้าเค้าไม่มีความสุข เราจะบาปนะ เอาเค้ามาทรมานรึเปล่า แล้วถ้าน้องโบว์ไปปฏิบัติธรรมใครจะดูแล แล้วก็อีกแหละ ถ้าไปเที่ยวกันสองคนจะทำยังไง จะไปฝากใครเลี้ยง แล้วเค้าจะดูแลดีมั๊ย โอ๊ย สารพัด จะมีเหตุผล

จริงๆ พี่หนุ่มเค้าเป็นคนรักสัตว์นะคะ รักมากเลย ซี้กันกับสุนัขข้างบ้านอย่างแรง น้องโบว์ซะอีกที่ขี้กลัว กลััวสัตว์ทุกชนิด ออกแนวระแวงๆ อ่ะคะ ไม่รู้เป็นอะไร ^^" (แต่ยังไม่วายอยากเลี้ยง)

ดังนั้น ในเมื่อไม่มีสัตว์เลี้ยง ตัวอะไรมาอยู่ในบ้านเรา เราก็จะตื่นเต้นเป็นพิเศษ แล้วก็อุปโลกว่าเค้าเป็นสัตว์เลี้ยงของเรา แม้จะเป็นในช่วงเวลาสั้นก็เถอะคะ อิ อิ...

เนื่องจากบ้านเราจะไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต และพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่เบียดเบียน ขนาดยุงเต็มห้องนอน ยังไม่เคยฆ่าเลย ถ้ารำคาญจริงๆ ก็จับไปปล่อยนอกบ้านค่ะ ด้วยเราสองคนเห็นตรงกัน (โชคดีจริงๆ) ว่าเค้าทำเพื่อเอาชีวิตรอด แต่เราแค่รำคาญหรือเสียเลือดไปติ๊ดเดียวเอง มีสิทธิ์อะไรไปฆ่าเค้าก็ไม่รู้ ด้วยเหตุเช่นนี้ ทำให้สวนของเรา มักเต็มไปด้วยหนอนน้อย หลายสายพันธุ์ น่ารัก น่าเอ็นดู คิ คิ เวลาต้นไหนมีหนอน เราก็มักตื่นมาเฝ้าดูพฤติกรรม การเติบโตของหนอนๆ ทั้งหลายกัน อย่างหนุกหนาน 555

กลุ่มแรกที่จะแนะนำให้รู้จัก เป็นหนอนมะนาว (อากู๋บอก) search ดูแล้วเป็นผีเสื้อปีกดำๆ แต่ก็สวยดีทีเดียวค่ะ น้องๆ เหล่านี้ เราจะเห็นเต็มต้นมะกรูดเลยล่ะคะ ตอนแรกๆ หน้าตาจะเหมือนขี้นกเลย สีเขียวๆ เหมือนจะเละๆ 555 เค้าคงจะพรางตัวเนอะ จะได้ไม่โดนนกจับไปกิน (แต่สังเกตตอนหลังๆ ก็โดนกินอยู่ดี ไม่ค่อยจะเหลือรอดเลย เป็นวัฎจักรของเค้านั่นแหละคะ)


เหมือนขี้นกมั๊ยละคะ ดูสิเที่ยวกินใบโน๊น ใบนี้ จองไว้ก่อนละซี๊รู้นะ ^^

กิน กิน แล้วก็กิน ทั้งวัน ท่ากินก็น่ารักดี งุบงิบๆ วันดีคืนดีก็แปลงร่างสีสันสวยสด ร่างนี้ค่อยเหมือนหนอนผีเสื้อหน่อย คงคิดว่าโตพอ ไม่ต้องพรางตัวแล้วละสินะ



เป็นไงคะ พอหนูแปลงร่างแล้ว สีสันบาดตา บาดใจมั๊ยคะ



กินกันจนอ้วนปลิ ใบมะกรูดเค้าโกร๋นหมดเลย T^T



ตัวนี้อ้วนปุ๊ก แต่ก็ยังก้มหน้าก้มตา แง๊บๆๆๆๆๆ
(ช่วงที่โดนบุกหนักๆ ต้องซื้อใบมะกรูดมาทำกับข้าวแทน 555)



พออิ่มหนำสำราญ ได้ที่ ก็หามุมสงบๆ ช่วงนี้หายไปหลายตัวเลย
ก็ไม่รู้จะหาแบบสงบมากขนาดไหนกัน คงหนีเราสองคนด้วยแหละ มันมากวนทุกวันเลย 555



แล้วหนูก็เป็นดักแด้แล้ว ขนาดเป็นดักแด้ยังสวยขนาดนี้เป็นผีเสื้อจะสวยขนาดไหนน๊าาาา

ก็ยังเป็นปริศนาต่อไป เพราะเราไม่ทันค่ะ วันดีคืนดี ดักแด้นี้ ก็เหลือแต่เปลือก น้องเค้าบินไปแล้ว ก็ดีใจด้วยที่เป็นหนึ่งในหลายสิบตัวที่มีโอกาสได้กลายเป็นผีเสื้อน่ารักๆ กลับมาวางไข่ที่ต้นนี้บ่อยๆ นะจ๊ะ จะไม่กวนแล้วน๊าาาา @^^@

Friday, March 4, 2011

ปวดหลัง โรคของหมอนรองกระดูก-Vejthani Hospital

Monday, September 27, 2010

สวนน้อยๆ ของเรา มีมุมสวนอังกฤษด้วยล่ะ หวานซ้าาา

สวัสดีค่ะ ไม่ได้อัพเดทมานาน ส่วนหนึ่งก็ติดเล่นเกมส์ใน facebook 555 อีกส่วนก็ ไปปฏิบัติธรรมถึงสองคอร์สในช่วงสองเดือน นานเลยค่ะ ก็เลยไม่ได้มาอัพเดทซะที รูปที่ถ่ายเอาไว้ก็ยังไม่ได้เอามาลงซะที ดองไว้นาน เค็มซะแล้วละมั้ง อิ อิ

วันนี้เอาสวนที่จัดเสร็จแล้วมาลงเอาไว้ ซึ่งปัจจุบันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพราะผ่านฝนอย่างหนัก โตเอาโตเอา รกมากๆเลย หญ้าก็ไม่ค่อยได้ตัด เลยไม่ค่อยสวยเหมือนในรูป คริ คริ เดี๋ยวก็ต้องค่อยๆ ซ่อมแซมกันต่อไป

ก่อนอื่นก็ผ่านซุ้มกุหลาบกันก่อนเลยค่ะ ตอนแรกเป็นประตูพับๆ แต่ไปๆมาๆ รำคาญซะอย่างนั้น ก็เลยเอาออกแล้ว ^^" เหลือแต่บานติดตาย ที่น้องโบว์วาดรูปกุหลาบชั้นเดียวไว้ (พยายามมองให้เป็นกุหลาบหน่อยนะคะ) สองฝั่งของซุ้ม ก็ปลูกกุหลาบเลื้อย ตอนนี้เลื้อยสูงมากๆ แล้วค่ะ ทะยอยกันออกดอกเรื่อยๆ แต่โดนฝนก็จะช้ำง่ายค่ะ ฝั่งด้านนึงเป็น Golden Celabration อีกฝั่งเป็น Candy Mountain คาดว่าช่วงหน้าหนาวดอกคงสวยมากๆเลย เอาไว้ดอกซะพรั่งจะมาให้ชมอีกรอบค่ะ


เดินเข้ามาเรื่อยๆ จะเห็นสวนที่พยายามจัดเป็นสวนอังกฤษกัน ด้านหน้าบ้าน แต่ละต้นตอนนี้ก็สูงเอาสูงเอา ต้องคอยตัดอยู่เรื่อยเลย จะโตไปไหนเนี่ย โดยเฉพาะเทียนหยดสีขาว กับ Happyness โตมากๆ ตอนนี้โดนตัดซะน่าสงสารเชียว คริ คริ แต่ที่น่ารักที่สุดก็จะเป็น แวววีิเชียรสีชมพู ดูแล้วหวานหยดย้อยเลยล่ะ

นี่ไงมาดูกันใกล้ๆ ด้านหน้าจะมีพวก กระดุมเงินกับกระดุมทอง แซมด้านหน้าด้วย จะได้มีสีหลากหลายนิสสสนึงค่ะ ~@^^@~ ทั้งหมดยกความดีให้พี่หนุ่มในการลงแรง ส่วนน้องโบว์ออกไอเดียแล้วก็ชี้ๆ อย่างเดียว 555


มองจากศาลาสุดสวย ย้อนออกมา สวยอ่ะ จะเห็นว่ามีแพงพวยเลื้อยอยู่สองกระถาง ซึ่งมีความเป็นมาค่อนข้างยาว เดี๋ยวคราวหน้ามาเล่าให้ฟังดีกว่า ปัจจุบันเหลือพุ่มเดียวแล้ว แต่ก็ยังสวยอยู่น๊าาาาา


มองไปในศาลา น่านั่งรึเปล่าค๊าาาา (ปัดฝุ่นแล้วนะ นั่งได้ๆ)


ด้านหลังบ้าน เอ๊า ไม่ได้ถ่ายไว้หลอกเหรอเนี่ย โธ่ จนตอนนี้รกแล้ว จะเอารูปสวยๆ ที่ไหนโชว์ล่ะเนี่ย ไม่เป็นไร เดี๋ยวจัดกันใหม่ ถ่ายรูปมาสร้างภาพ 555 ด้านข้างบ้าน ก็จะมีต้น บุหงาส่าหรี ดอกจะคล้ายราชาวดีมากๆ แต่เป็นต้นไม้ยืนต้น แล้วก็ตรงห้องพระ จะมีต้นพิกุล รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะออกดอก

ด้านหน้าบ้านปลูกชบา แล้วก็แซมด้วยบัวดิน ช่วงนี้หน้าฝน บางวันบัวดิน บานสะพรั่งเลย ครั้งที่บานมากที่สุดเป็นร้อยดอกเลย (ไม่ได้โม้นะ จริงๆ นับแล้วด้วย ^^) สวยมากเลย ตื่นเต้นๆ เสียแต่ว่ามีแค่สีขาว กับสีชมพู ค่ะ ยังขาดอีกหลายสีเลย อิ อิ


บานแค่สองวันก็เหี่ยวซะแล้ว

สุดท้าย Candy mountain กุหลาบชั้นเดียวจ้า ออกดอกเป็นช่อๆ เลย นานหลายวันด้วย ทนมากเลย เสียแต่เลื้อยสะเปะสะปะไปนิดนึง ของจริงสวยกว่าในรูปอีกนะจะบอกให้


บ้านเราปลูกดอกไม้เป็นส่วนใหญ่ ชอบมากๆ เลย มองทีไร ก็ชื่นใจ กลิ่นก็หอมอ่อนๆ แต่ก็ต้องคอยเอาใจใส่เค้ามากๆ หน่อยค่ะ เผลอนิดเดียว น้อยใจ เหี่ยวแห้งไปเลยก็มี จนป่านนี้บางต้นก็ยังไม่รู้ใจกันเลย ดูแลต้นไม้ก็เหมือนดูแลความรักนะคะ ต้องหมั่นรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ไม่ใช่ว่าได้มาแล้ว จะทิ้งๆขว้างๆ มันก็โรยรา เฉาตายได้นะจ๊ะ

Friday, July 23, 2010

บ้านเราแสนสุขใจ แม้จะอยู่ที่ไหน ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา


ตอนแรกตั้งใจจะเอารูปสวนที่จัดเสร็จแล้ว (แบบมือสมัครเล่น) มาอัพเดท แต่ก็ขี้เกียจจัดรูปซะงั้น 555 ก็เลยเอาแค่รูปด้านหน้าบ้านล่าสุด มาโพสไว้ก่อน คริ คริ

กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็ต้องใช้แรงงานกาย แรงใจไม่น้อยเลยค่ะ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ งานออกมาก็เสร็จแบบ พอมาเดินชมสวนกัน ก็ได้แต่คุยกันว่า ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าเราจะจัดกันเองได้ขนาดนี้ แล้วก็สวยได้อย่างใจจริงๆ อิ อิ น๊าาาาน ชมสวนตัวเองก็ได้ 555

เวลาอยู่บ้านด้วยกันสองคน น้องโบว์มีความสุขมากเลยนะ ตอนที่พี่หนุ่มบอกว่า ดีใจที่ตัดสินใจซื้อบ้าน แล้วก็น้องโบว์นี่แหละสนับสนุนให้ซื้อเต็มที่

แล้วก็เวลาที่พี่หนุ่มใช้เวลาอยู่กับสวนตอนน้องโบว์ทำกับข้าวให้ทาน ซักพักพี่หนุ่มก็จะเข้ามาถามว่า ชอบบ้านเรามั๊ย บ้านเราน่ารักมาก แล้วบ้านนี้ก็น่าอยู่มากๆ ที่มีน้องโบว์.... วู้...~@^^@~

น้องโบว์ก็คิดเหมือนกันว่า บ้านนี้น่าอยู่มากๆ ค่ะ แต่ถ้าขาดพี่หนุ่มไป บ้านนี้ก็คงไม่เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าน้องโบว์ยังอยากจะอยู่ที่นี่อีกรึเปล่า

บ้านหลังนี้เป็นส่วนที่เข้ามาเติมเต็ม ทำให้เรามีกิจกรรมทำร่วมกันมากขึ้น ผูกพันกันมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่หล่อหลอมออกมา ต้นไม้ทุกต้น เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ล้วนแต่มีความทรงจำที่ร่วมกันสร้างขึ้นมา

เดี๋ยวนี้สังเกต พี่หนุ่มจะอยากอยู่บ้านมากๆ ไม่ค่อยหาเรื่องไปเดินห้างทุกวันหยุดอย่างแต่ก่อนเนอะ อย่างว่านะคะ ยังไงๆบ้านของตัวเอง ก็ต้องดีกว่าเช่าอพาทเมนต์อยู่ ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมามากมาย แต่มันก็สุขใจมากกว่าเป็นไหนๆ จริงรึเปล่าคะ

Monday, July 12, 2010

ปูหญ้าเองก็ได้ ง่ายจัง บวกกับ ดำเลยอ่ะ (ดองมาน๊าน นาน)

สวัสดีค่ะ ทุกๆ คน ที่หลงเข้ามาอ่าน

หลังจากขี้เกียจบวกกับเห็นเค้าฮิตเป็นหวัดกัน ก็เลยเป็นกะเค้าบ้าง 555

ตั้งแต่ปลายๆ เดือนพฤษภาคม ต้น มิถุนายน น้องโบว์กับพี่หนุ่มก็ได้ลงมือปูหญ้ากัน กะว่านอกบ้านจะได้เสร็จซะที แล้วก็จะได้จัดในบ้านกัน (แต่จนแล้วจนรอดในบ้านก็ยังจัดไม่เสร็จเลยค่ะ)

ทีนี้นอกบ้านก็เหลือหลักๆ คือปูหญ้านั่นเอง

ก่อนอื่นเลยน้องโบว์ก็ลังเลว่าจะโรยหิน แบบเป็นสวนหิน หรือว่าปูหญ้าดี เห็นในหนังสือหรือตาม blog เค้าเปลี่ยนเป็นสวนหินกันหมดแล้ว เพราะว่าหญ้าดูแลยาก ซักพักมันจะกะดำกะด่าง แต่อีกใจก็อยากมีหญ้า ให้เท้าได้สัมผัสกับธรรมชาติจริงๆบ้าง และมันก็ดูเย็นๆ กว่าหินมาก

แต่สุดท้ายก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะพี่หนุ่มเค้าชอบหญ้ามากกว่า (อุ๊ย! ไม่ได้หมายความว่าพี่หนุ่มชอบกินหญ้านะคะ มอ มอ)

เอาล่ะที่นี้ก็โยนหน้าที่มาให้น้องโบว์หาข้อมูลการปูหญ้าอีกแล้ว ... น้องโบว์ ก็พึ่ง อากู๋ อีกแล้วล่ะค่ะ อิ อิ

จากข้อมูลที่ได้
1.ถมทราย
2.โรยดิน (บางอันก็บอกไม่ต้อง)
3.ปูหญ้า
4.รดน้ำ

อะไรมันจะง่ายขนาดน๊าาาาน อย่างงั้นเราสองคนก็ไม่รั้งรอไปซื้อหญ้ากันดีกว่า เพราะว่าดินทรายเราก็ถมมานานหลายเดือนแล้วจนแข็งเป๊กแล้วอ่ะ เสร็จแล้วตกลงกันว่าเอาหญ้ามาเลเซีย เพราะดูมันจะอวบๆ อ้วนๆ ดี อิ อิ

สวนเล็กๆ ของเราก่อนปูหญ้า จริงๆ ก็ว่าสวยแล้วนะ 555


ไปร้านขายหญ้า ก็ผิดหวังเลยค่ะ เพราะเหลือหญ้าไม่มีผืน ออกจะเป็นเศษๆ แต่กลัวเสียความตั้งใจ ไม่เป็นไร มีเท่าไหร่เหมาหมดเลยค่ะ ได้มา สิบกว่าแผ่น แผ่นนึงกินพื้นที่ครึ่งตารางเมตรค่ะ กว้าง 50 เซน ยาว 1 เมตร ราคาแผ่นละ สิบกว่าบาทนี่แหละค่ะ จำไม่ได้แล้วอ่ะ (นี่ขนาดยังไม่แก่นะเนี่ย เริ่มจะขี้ลืมแล้วเรา)



ขนมาเองเลย มีแค่เนี๊ยะ

เสร็จแล้วก็เริ่มปูจากหลังบ้านกันเลย ทยอยขนหญ้าจากท้ายรถมาหลังบ้านมาวางกองไว้ก่อน หญ้ามันจะคั๊นคันอ่ะ ก็เลยทำเป็นแตะๆ เท่านั้นเอง 555 เนียนมาถ่ายรูปแทน อิ อิ


วางกองเตรียมไว้ก่อน



จัดการรื้อถอนวัชพืชเตรียมพื้นที่ก่อนค่ะ



โรยดินก่อนนิดนึง แล้วก็เอาหญ้าไปวางๆ แปะๆ เอาไว้



เสร็จแล้ว แต่ดูมันมอมแมม ยังไงก็ไม่รู้เนอะ


วันหลังไปซื้อหญ้ากันเพิ่ม แล้วก็ไล่ปูไปจนรอบบ้าน แต่ตอนหลังไม่ได้โรยดินแล้วค่ะ เพราะขี้เกียจ แต่ผลก็ไม่เห็นแตกต่างกันเลย เหมือนๆ กันนั่นแหละค่ะ


ด้านข้างบ้านเสร็จแล้ว



มาต่อด้านหน้าบ้านกันเลย

จริงๆ แล้ววันเดียวก็เสร็จค่ะ แต่ที่ทำกันหลายวันก็เพราะหญ้าไม่พอ เลยต้องไปเอาหลายวัน เอามาซ่อมหญ้าของวันแรกที่ปูแล้วตายไปด้วยค่ะ

ข้อสำคัญที่จำเป็น
1. พบว่าหญ้าที่มันไม่ค่อยเป็นแผ่น ดูเหมือนจะแห้งแล้วอย่าซื้อเลยค่ะ ตายแน่ๆ lot แรก อันที่เป็นเศษๆ ส่วนใหญ่จะตายค่ะ
2. เวลาแบ่งหญ้า อย่าใช้วีธีเอามือฉีกๆ เลยค่ะ ส่วนที่ฉีกออกมามักจะตาย (บอกแล้วพี่หนุ่มก็ไม่เชื่อ งึม งึม)
3. รดน้ำเยอะม๊าก มาก มาก มาก เช้า สาย บ่าย เย็น รดมันเข้าไป เปลืองน้ำมากๆ แต่ต้องรดมันเข้าไป ซักสามสี่วันก็น่าจะอยู่ตัวค่ะ ถ้าฝนตกจะดีมากเลย ประหยัด อิ อิ พออยู่ตัวแล้วทีนี้ก็ไม่ต้องรดมากแล้วค่ะ รดปกติได้เลย เดี๋ยวโตเร็วเกิน 555



ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ และแล้วหญ้าเราก็รอดชีวิต ดีใจจัง



แหมๆ ดูจะงามเกินไปรึเปล่าละเนี่ย

ปัจจุบัน ต้องตัดหญ้าทุกสัปดาห์เลยล่ะค่ะ ยาวเอา ยาวเอา ที่นี้ใช้กรรไกรตัด ก็เลยกินเวลาเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว กว่าจะตัดเสร็จรอบบ้านหน้าบ้านก็ยาวพอดี กลายเป็นงานประจำวันไปได้ไง 555 แต่คิดว่าเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อย หญ้าก็เลยโตเร็วไปหน่อยค่ะ โอ๊ะ โอ๋ รู้สึกว่าแขนเริ่มจะมีกล้ามขึ้นแล้วนะเนี่ย เดี๋ยวกล้ามใหญ่กว่าพี่หนุ่มจะว่าไงเนี่ย ~@^^@~


Monday, May 31, 2010

ติดตั้งระบบรดน้ำต้นไม้ แบบยังไม่สมบูรณ์ (มือใหม่หัดทำค่ะ)

และแล้วงานช้าางงงงง ก็มาถึง หลังจากอิดออดกันมานาน

เนื่องจากใกล้วันที่เราสองคนจะไม่อยู่บ้านพร้อมๆ กันหลายวัน ก็เลยเป็นห่วงต้นไม้ที่บ้านที่งามแสนงาม งามวันงามคืน อิ อิ กลัวกลับมาแล้วจะไม่เหลือให้เชยชม ต้องเป็นลมหน้ามืด จัดสวนใหม่ 555 จะว่าไปจริงๆ จัดสวนก็สนุกดีนะคะ แต่เอาเป็นว่าบ่อยๆ ก็ไม่ดี ซัก ปี สองปี ปรับปรุงกันซักครั้งดีกว่าเนอะ

พอได้ฤกษ์ พี่หนุ่มก็จัดแจงไปแวะ Homepro กัน (ที่คุ้นเคย) จริงๆ เดินโซนทำระบบน้ำกันบ่อยแล้วค่ะ เพราะมีอยู่กะติ๊ดเดียวเอง ที่ Homepro ขายยี่ห้อ Rainbird (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) ราคาไม่ใช่เล่นๆ เลย เอามาทำทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ได้เชียวน๊าาาา .... พี่หนุ่ม วนดูแล้วดูอีก แต่น้องโบว์ว่าแพงอ่ะ เคยเห็นคุ้นๆ ที่ Global มันถู๊กๆ นี่นา ขายเป็นแพ๊คๆ หลักสิบต้นๆเอง ไหงที่ Homepro ถึงแพงอย่างนี้

ก็เลยเบนเข็มไปที่ Global (ที่นี่เสียอย่างเดียว ร้อนมั่กๆ อยู่นานไม่ได้ หายใจไม่ออก ) พอไปถึง โอว! แม่เจ้่า เยอะแยะไปหมด ยิบย่อย หลากหลาย เยอะจริงๆ ขอบอกครับ ..... ราคาก็ถูกกว่าที่ Homepro เกือบสิบเท่า (ไม่ได้โม้นะ จริงจริ๊งงง)

ว่าแล้วพี่หนุ่มก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ตัดสินใจไปเอารถเข็น กะโกยเต็มทีเลยค่ะ 555 น้องโบว์ปล่อยพี่หนุ่มเลือกเต็มที่เลย เพราะลายตาไปหมดเลือกไม่ถูก เลยไปเดินล็อกอื่นซักพัก กลับมา ....

อ้าว ไหงรถเข็นยังว่างเปล่าอยู่ละคะ ..... เลือกไม่ถูกล่ะซิ๊... อิ อิ

ระหว่างมึนงง สายตาน้องโบว์ก็เหลือบไปเห็น อ่ะ นั่นมันแคตาล็อกของคนขายนี่นา อย่ากระนั้นเลย ขอแอบดูหน่อย... โห รายละเอียดเยอะมาก มีวิธีการต่อตั้งหลายแบบ เอาตัวนั้นไปต่อตัวนี้ ... ดูๆ ไป ท่าทางงานยากเสียแล้วละค่ะ 555 ดูไป มึนไป น้องคนขายมาให้ซักถาม เราก็ถามนิดๆ หน่อยๆ เพราะความรู้น้อยนิด ไม่รู้จะถามอะไรจริงๆ

ว่าแล้วก็ถอดใจ ขอกลับไปศึกษาก่อนดีกว่า งึม งึม...

น้องคนขายยืนเฝ้าอยู่ แหมๆ ว่าจะจิ๊กแคตาล็อกไปดูซะหน่อย (อิ อิ) ไม่เป็นไร เอาไปวางคืน ก็ได้... สงสัยด้วยความที่ทำหน้าไม่ค่อยอยากจะคืน น้องเค้าเลยถามว่า "พี่จะเอาเล่มใหม่มั๊ยครับ" ... มีหรือจะไม่เอา (คิดในใจ) รับหนังสือมาจากน้องเค้า ดีใจสุดๆเลย รีบกลับบ้านทันที ไม่ดูอะไรแล้ว 555




นี่ไงคะ แคตาล็อกเล่มหนาเชียว สินค้าส่วนใหญ่เป็นของ Super products



รายละเอียดด้านในเพียบ...


ว่าแล้วพี่หนุ่มก็โยนหน้าที่มาให้น้องโบว์... จัดการไปออกแบบมา ... อ้าว งานเข้าสิเรา... --"


ว่าแล้วก็วัดๆ วาดรูป กะว่าจุดไหนใช้อะไร หัวแบบไหน กี่ตัว
เราแบ่งการทำงานออกเป็น 3 โซนใหญ่ๆ และทำงานไม่พร้อมกัน
เพื่อแรงดันของปั๊มตัวเล็กๆ ของเราจะได้ จ่ายน้ำเพียงพอสำหรับทุกหัวจ่าย



แต่ถึงเวลา ซื้อมาเพียบค่ะ เวอร์ไว้ก่อน ของมันถูกกว่าค่าน้ำมันนิน๊า
สรุปรอบแรกหมดไป 5 พันกว่าๆ ค่ะ ของจุ๊กๆ จิ๊กๆ เต็มปายหมดเลยล่ะ


เราเลือกที่จะใช้ปั๊มตัวเก่า ส่วนตัวควบคุม ขอเป็นแบบใส่ถ่านก่อนแล้วกัน ก็เราสองคนไม่ถนัดเรื่องไฟฟ้ากันเลยนี่นา แต่อ่านในพันทิพเค้าว่าแบบใส่ถ่านรวนง่าย เอ้า.. สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ขอลองกันซักตั้งก็แล้วกัน... ถ้าไม่ work เดี๋ยวเอาใหม่เนอะๆ

ของครบ คนพร้อม เริ่มลุยกันเลย

เริ่มจากตัดท่อ PE ที่เราซื้อมา ขนาดท่อนี้ คำนวณมาเรียบร้อย ค่ะ (ตามคู่มือ เป็นไงละ ดูน่าเชื่อถือป่าว คริ คริ ) ติดข้องอ และ สามทางตามจุดต่างๆ เดินท่อหลักนี้รอบบ้าน ตามโซนที่เราคิดกันไว้



ข้อต่อไฮโซมากๆ
จริงๆ เค้าเอาไว้ใช้กับแรงดันสูง
(แต่ไม่อยากบอก อันนี้พี่หนุ่มเลือกค่ะ... น้องโบว์ไม่สนับสนุนค่ะ ก็มันแพงอ่ะ เข้าใจใช่มั๊ยคะ มันแพง T^T)



จริงๆ ใช้แบบนี้ก็ได้ค่า ง่ายกว่าด้วย ที่สำคัญ ถูกง่ะ ถูกกว่ามากมาย



เดินท่อรอบบ้าน แล้วก็ใช้ตัวปักดิน เสียบล็อคเอาไว้เป็นระยะๆ



บางจุดก็ต่อวาล์วช่วยแบ่งโซนเล็กอีกที


พอเดินท่อหลักรอบบ้านเสร็จก็ง่ายแล้วค่ะ ต่อไปก็งานจิ๊บๆ (มั้ง)


ว่าแล้วก็เริ่ม เจาะ มีอุปกรณ์พร้อม เลือกใช้ตัวไหนก็ได้
ซื้อมาสองแบบเลย เนื่องจากเลือกไม่ถูก 555




แล้วก็ทยอยติด มินิสปริงเกอร์


อยากทำเท่ห์ ติดพ่นหมอกกะเค้า



มีแบบปักกับพื้นด้วย
หัวกระจายน้ำก็มีหลายแบบ หลายอัตราการไหล ก็เลือกตามอัธยาศัย



มีแบบสเปรย์ติดกับท่อหลักด้วย
(ตัวนี้แรงดี ชอบๆ)

จริงๆ มีแบบน้ำหยดด้วยค่ะ ลืมถ่ายรูปมาซะงั้น....

ตอนนี้ยังไม่ได้ลองติดตัวควบคุมอัติโนมัติ ซื้อมายังไม่ครบค่ะ ของมันหมดสต๊อค ต้องรอก่อน (อย่างใจเย็น)

สรุปตอนนี้ก็ยังต้องแก้ไขเลือกหัวแต่ละจุดให้เหมาะสมกับต้นไม้ค่ะ แล้วก็ต้องได้รับน้ำอย่างทั่วถึงด้วย (มันยากมากเลยนะ) เพราะตอนนี้บางจุดดูจะชุ่มฉ่ำเกินความจำเป็น 555 ค่อยๆ ปรับกันไป มันยากตรงนี้แหละค่ะ ถึงว่าเค้าถึงต้องใช้ผู้ชำนาญเฉพาะทาง ว่าป่าวคะ


Tuesday, May 25, 2010

จัดสวนหินหลังบ้าน

เอารูปเก่าๆ ตอนจัดสวนหินหลังบ้านมา update ไปพลางๆ ก่อน เพราะช่วงนี้กำลังเดินระบบน้ำโดยรอบบ้านอยู่ ไฮโซมั๊ยล่ะเนี่ย อิ อิ

ด้านหลังบ้่านเป็นถังน้ำ มีซอกแนวทางเดินเล็กๆ แต่ไม่มีทางระบายน้ำ พอฝนตกโซนนี้ก็แฉะมากมายทีเดียวเชียวค่ะ ก็เลยจัดการ เกลี่ยถมดินบริเวณนี้ แล้วก็เอาตาข่ายดำมารองก่อนจะเทหิน



เสร็จแล้วก็พร้อมเอาหินลง


อ่ะๆ แต่เดี๋ยวก่อน ต้องเอาแผ่นทางเดินมาลงก่อนสิ แล้วค่อยเทหิน

แผ่นทางเดินอันนี้ดั้นด้นหามามากๆ แอบเห็นของคนอื่นใน pantip แล้วอยากได้ (ความอยากไม่เข้าใครออกใคร 555) ตามหาทั่วชลบุรีก็ไม่เจอ (จริงๆ หาแค่แถวๆนี้แหละค่ะ เขียนเว่อร์ไปงั้น 555) ด้วยความโชคดี วันที่ไป shopping กระถางซีเมนต์สไตล์โรมัน ที่ร้านต้องตา รังสิตคลอง 6 แล้วลองเดินดูร้านอื่น ก็เจอแผ่นทางเดินที่ต้องการจนได้ ดีใจมากๆ ขนใส่รถมาอย่างหนักเลย สงสารรถมาก

แผ่นหินที่ว่านี้เป็นวงกลมมีรูอ่ะ ตอนแรกหาไม่เจอจะไปจ้างเค้าทำ เค้าคิดแผ่นละ 200 (บ้าป่าว) ดีนะไม่ได้ทำ เลยประหยัดไปได้เยอะเลย อันนี้ได้มา แผ่นละ90 บาท ต่างกันเห็นๆ

ส่วนดอกชบา จำไม่ได้แล้วกี่บาท แต่ได้มาจากร้านต้องตานั่นแหละค่ะ


คนงานที่บ้านก็ทำการจัดเรียง อิ อิ
เผยโฉมหน้าซะที เล่นตัวมากๆ


เสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นไงบ้างค่ะ



จัดฉาก ถ่ายรูปซะหน่อย

ช่วงนี้หลังบ้านแดดเริ่มร้อนนั่งไม่ได้เลยค่ะ ต้องรอ ต้นๆ ปี หลังบ้านจะเป็นมุมนั่งเล่นของเรา วิ๊ว วิ๊ว