และแล้วทรายล้าง ก็เสร็จซะทีจ้า

อิ อิ คราวที่แล้วเขียนค้างไว้ แล้วก็ติดภารกิจมากมาย บวกกับความขี้เกียจทำให้ไม่ได้ update blog เลยค่ะ

เอาเป็นว่าในที่สุดทรายล้างก็เสร็จแล้วนะคะ ดูลายแล้วหน้าตาเหมือนหินขัดยังไงก็ไม่รู้เนอะ

เราสองคนเลือกทำทรายล้างที่โรงรถ ก็เน้นที่ความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง ความสวยงามอันดับสอง เพราะได้ยินมาว่าทรายล้างเลอะง่าย ล้างยาก ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แหละค่ะ จะให้เหมือนกระเบื้องคงไม่ได้ แต่เราสองคนก็ซุ่มซ่าม ถ้าเป็นกระเบื้องคงลื่นล้มกันบ่อยน่าดูเลย ก็เลยสรุปลงที่ทรายล้างนี่แหละค่ะ

ลวดลายนี่ออกแบบเองเลย แต่ออกมาไม่ได้อย่างที่คิดเท่าไหร่ ก็ตามใจช่าง ยังไงก็อย่างงั้น 555

เห็นลายทั่วๆ ไปมันแข็งๆ อยากได้แบบหวานๆ ก็เลยซะหน่อยนึง ตั้งใจวาดเป็นลายเถาวัลย์ แต่ไหงออกมาเหมือนลายไทยก็ไม่รู้นะเนี่ย แต่ก็โอเค งามแล้วจ้า

โรงจอดรถทรายล้าง ไม่เสร็จซะที

ในที่สุดก็ถึงคิวทำโรงจอดรถเสียที หลังจากผลัดไปเรื่อยๆ เพราะต้องใช้สถานที่ในการทาสี เลอะๆ กัน และอีกปัจจัยที่สำคัญก็คือ ... ตังส์ไม่มีนั่นเอง 555

พอได้ฤกษ์ก็เรียกช่างมาตีราคา แพงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มากเชียว ... เดี๋ยวมาต่อ

เฟอร์นิเจอร์เล็กๆ น้อยๆ ซื้อไป ตามใจกิเลส

สวัสดีค่ะ Hello Hello!!! แฮะๆ ห่างหาย ไปหลายวันอีกแล้ว ไม่ได้ขี้เกียจนะคะ แบบว่าไปปฏิบัติธรรมอีกแล้วเลยหายไปนาน วันนี้จะมา update เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ ที่ซื้อมาจากโพเดียมดีกว่าค่ะ 555 ประมาณว่า ... อยากอวด อิ อิ...

จริงๆ แล้วชิ้นแรกที่ซื้อมาจาก Podium เนี่ยตั้งแต่เดือนตุลา แต่รู้สึกจะไม่ได้เอามาลง ที่นี้พอเห็นมีหลายชิ้นแล้วก็ลงซะหน่อยนะคะ

อันที่จริงว่ากันแต่แรกนะ วันนั้นไม่ได้ตั้งใจไปซื้อเฟอร์นิเจอร์เลย พอผ่านก็แวะเฉยๆ (จริงๆ) เพราะสมัยก่อน (นานแล้ว) เคยเดินไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ มันเหมือนโกดัง ยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก แต่ก็ไหนๆ ก็มีโชว์รูมอยู่เมืองชลฯนี่แล้ว ก็เลยเข้าไปดูซะหน่อย ดูดิ เลยเสียตังส์เลย

เฟอร์นิเจอร์เค้าก็ไม่ได้เยอะมากอะไร แต่งร้านก็ไม่ค่อยสวยเหมือน index (แต่ดีกว่าสมัยก่อนเยอะเลย) แต่ดูเฟอร์เค้าแล้วก็สวยดีนะคะ โดยเฉพาะที่เป็นสีไม้ดำๆ แต่ว่าเราไม่ได้แต่งบ้านโทนสีนั้น เสียดายชะมัดเลย สวยมากๆ เลย แล้วก็ราคาไม่แพงด้วย ส่วนใหญ่ของที่นี่จะทำจากไม้ยางค่ะ

เดินไปเดินมาสะดุดตากับของ Sale นะซิคะ คนมันแพ้ ป้ายสีแดงๆ หือ หือ T^T ตัวนี้เลย ตู้ข้างเตียง มีตัวเดียว สีขาว ขายตัวโชว์ ลดมาเหลือ 2,500 บาท เห็นแล้วชอบเลยค่ะ มันจะดูเก่าๆ ถลอกๆ หน่อยๆ ไม่รู้มันเก่าจริง หรือเค้าตั้งใจทำเก่า พนักงานขายยังไม่ค่อยอยากขายเลย ขำดี เค้าบอกมันเก่ามากเลย เอาสีอื่นดีกว่าไหม มีหรือจะยอม บ้านเราต้องสีขาว.... สีขาว.... สีขาว....

ระหว่างรอทำใบสั่งซื้อ พนักงานก็เตรียมสินค้า เช็ดให้อะไรประมาณเนี่ย น่ารักมาก แต่แล้ว ก็เดินมาหา ... มีปัญหาอีกแล้ว เค้าบอกว่ามันร้าวอ่ะ ด้านข้าง เราไปดูก็เฉยๆ นะ มองไม่ค่อยเห็นไม่ซีเรียส เราก็บอกยังอยากได้ เค้าก็เลยโทรหาหัวหน้า บอกว่าสินค้ามีรอยร้าว เลยลดให้เหลือ 2,000 อิ อิ โชคดีจัง... พี่หนุ่มบอกจริงๆ ไม่ลดก็ซื้ออยู่แล้วล่ะ 555 ก็มันชอบนี่นา

ตู้นี้น้องโบว์ยึดมาวางข้างเตียงฝั่งน้องโบว์

สร้างความอิจฉาให้พี่หนุ่มเป็นอย่างมาก

อยากได้มาวางฝั่งตัวเองบ้าง แต่เสียใจด้วย อิ อิ หาไม่ได้แล้ว...

อีกชิ้นที่ได้มาก็เป็นตู้เสื้อผ้าค่ะ อันนี้เอามาวางในห้องพระ พี่หนุ่มก็อยากยึดไปวางในห้องดูทีวีเหมือนกัน แต่ตอนนี้ห้องนั้นเป็นห้องเก็บของอยู่ ก็ต้องวางในห้องพระน้องโบว์นะจ๊ะ

ตอนนี้เอามาใส่เสื้อกันหนาว กับชุดปฏิบัติธรรม กะว่าถ้ามีใครมาพักจะได้แขวนเสื้อผ้าในตู้นี้ด้วยอ่ะคะ

ชอบตู้นี้ เพราะเป็นสีขาวอีกแล้ว แต่ออกแนว ไทยๆ ดีนะคะ บานเป็นบานเลื่อน เอาเป็นว่าชอบก็เลยสอยมาในราคา 7,500 บาท

ตอนเค้ามาส่ง มาประกอบ ของมีตำหนิค่ะ

มีรอยสี กับใส่ขอบไม้ไม่ได้

แต่ไม่เป็นไร ใส่เองได้จ้าาาา ส่วนรอยสี เดี๋ยวหาอะไรมาแต่งก็ได้เนอะ

เอาล่ะ เฟอร์นิเจอร์ตัวสุดท้าย อันนี้ได้มาไม่นาน เนื่องจากพี่หนุ่มเกิดอยากได้ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องพระนั่นเอง คิดดูจะไปซื้อมาอีกอัน ก็เลยได้ไปโพเดียม (จริงๆ แล้วเผื่อเจอของ sale อีก 555 )

ก็อย่างที่บอก ตั้งใจไปซื้ออะไรก็จะได้อย่างอื่นมา จะไปซื้อตู้เสื้อผ้า แต่ได้ ตู้ sideboard มาซะงั้น...

เห็นพี่หนุ่มดูๆเล็งๆ ไว้ตั้งแต่คราวที่แล้ว ตัวนี้มันเป็นตัวโชว์ ที่ขายไม่ออก ดูหน้าตาแล้วไม่น่ามีใครซื้อเนอะ ก็สวยนะ แต่มันแปลกดี ไม่ค่อยเห็นในเมืองไทย พี่หนุ่มชอบมาก บอกไม่เอาแล้วตู้เสื้อผ้า อยากได้ตู้นี้ ก็ได้ๆ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว

เอามาวางแทนชั้นวางหนังสือ ส่วนชั้นวางหนังสือ ส่วนหนึ่งก็ระเห็จไปอยู่ห้องพระ

อีกส่วนก็ระเห็จไปห้องเก็บของชั่วคราวจ้าาาาา

แต่แหม... อะไรไม่ใช้ก็มาใส่ไว้ห้องพระ นี่ห้องพระนะ ไม่ใช่ห้องวางของโละน๊าาาาา งึม งึม

ติด wall sticker อีกแล้วจ้าาาา ก็ของมันชอบ...

ว่าแล้วก็ต้องมาติดสติกเกอร์อีกรอบ ประเด็นก็เนื่องมาจากว่า ไปเดินเล่นเครื่องใช้ไฟฟ้าบ่อยๆ ไปเห็นตู้เย็น LG กับ Samsung มีลาดดอกไม้ส๊วย สวย แต่เนื่องจากสองยี่ห้อนี้ มีชื่อเสียมากกว่า ชื่อเสียง (ไม่ได้ดิสเครดิตนะ ก็อ่านๆ มาจากพันทิพอ่ะค่ะ) กลัวว่าซื้อมาแล้วต้องซ่อม ยิ่งเป็นตู้เย็นแล้ว ตอนซ่อมจะทำไงล่ะ อย่างนั้นก็เลยไม่เสี่ยง ถึงแม้ว่าจะสวยโดนใจแค่ไหนก็ตาม....

อย่ากระนั้นเลย ซื้อโตชิบามาแล้ว ก็แต่งดอกไม้เองก็ได้ ด้วยการติดสติกเกอร์เหมือนเดิม 555

ซื้อจาก internet เหมือนเดิม ร้านเดิม ส่งเร็วม๊าก มาก ไม่กี่วันก็ได้มาสมใจ และ แล้ว วันเสาร์ที่ผ่านมาก เราสองคนก็ลงมือกันเลย

คราวนี้สติกเกอร์ที่ซื้อมาจะค่อนข้างต่างจากคราวที่แล้ว คราวนี้จะเป็นพวกสีพื้นๆ เส้นบางๆ เยอะ ่ต้องมีแผ่นสติกเกอร์ที่เป็นตารางเปล่าๆ มาช่วยในการติดด้วย

แบบแรกก็รูปดอกไม้ เอามาติดตู้เย็นให้สวยหวาน อย่างนี้

ก่อนอื่นก็เอาสติกเกอร์ตารางแปะบนรูปสติกเกอร์ที่ต้องการติด เสร็จแล้วตัดดอกออกมา แล้วลอกด้านหลังสติกเกอร์ออก จะได้อย่างนี้

เป็นไง ดอกสีขาว บอบบางเชียว

แล้วก็เอามาแปะตามตู้เย็นทีละอัน

แล้วดึงสติกเกอร์ตารางออก ก็เป็นอันเสร็จ

แต๊น แตน แต้น เสร็จแล้ว หวาน ใช้ได้

รูปต่อมา พี่หนุ่มเลือกมาเพราะว่าสวยดี แต่พอได้มาจริงๆ ไม่รู้จะติดตรงไหน ช่วยกันดู เลยได้ข้อสรุปว่าเอามาติดในห้องน้ำ ห้องละกระถางก็แล้วกัน อันนี้ติดง่าย ช่วยกันติดแป๊บเดียวเอง

สวยหรู ห้องน้ำด้านนอก

อันนี้ในห้องน้ำของห้องนอน

ดูแล้วเหมือนลายกระเบื้องแพงๆ เลย ว๊าว ว๊าว

จริง จร๊ิง ไม่ได้ชวนเชื่อ

มีอีกลายที่ผิดโผมากๆ เลยก็ลายนี้ ตั้งใจจะติดห้องเก็บรองเท้า ก็ไม่ได้ติดอีกแล้ว ดูไปดูมารูปมันใหญ่ ไม่น่าจะลงได้ เราสองคนจินตนาการว่าคนตัวไม่ใหญ่ขนาดนี้ ก็เลยเปลี่ยนใจมาติดประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่ด้านหน้าบ้านแทน 555

คุณผู้ชายตั้งใจติดใหญ่เลย อิ อิ

แต่ติดแล้วสวยมากๆ เลย ได้ความรู้สึก อบอุ่น สบายๆ ยังไงก็ไม่รู้

ปิดม่านแล้วก็ยังเห็นเงาสะท้อน

แดดอ่อนๆ ส่องตอนเช้า ให้เห็นเงาสะท้อนออกมา ก็ได้อารมณ์ อืม...

จริงๆ ยังเหลืออีกแผ่นใหญ่ๆ ยังลงมติกันไม่ได้ว่าจะติดที่ไหนดี เอาไว้หนาวๆ ค่อยติด เพราะเป็นรูปเกล็ดน้ำแข็งสวยๆ ได้อารมณ์ X'mas เลย หุ หุ เห็นด้วยป่าวจ้ะ ...

ตกแต่งบ้้านนก อันที่สอง ตามที่พี่หนุ่มสัญญาว่าจะซื้อให้

เมื่อสัปดาห์ก่อนไปสั่งทำงานไม้อีกแล้ว ที่ร้านเดิม สั่งทำอะไรไปนั้นขออุบไว้ก่อนน๊าาาา...

ถ้าได้มาแล้วจะเอามาโชว์ อิ อิ....

ไปวันนั้นก็เลยได้บ้านนก คราวนี้เป็นคอนโดสองชั้น ราคา 180 บาท ยังไม่ได้ทาสีนะคะ เอามาทาสีเอง ว๊า ลืมถ่ายตอนซื้อมาใหม่อีกแล้ว

คราวนี้ก็ได้เพ้นท์ลายที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรกด้วย แต่ก็ยังมีคำสั่งมาว่า ห้ามเข้ม ขอสีอ่อนๆ ก็ได้จ้าาาาา จะไม่ตามใจได้ไง มีคนชื่นชมผลงานเราอยู่คนเดียว ถ้าพี่หนุ่มว่าไม่สวยก็แย่เลยสิ ก็ตามใจซะหน่อย

เริ่มด้วยเอาสีอคริลิคภายนอก สีขาวมาทา จำไม่ได้ว่ากี่รอบแต่หลายรอบอ่ะ ทาอยู่นั่น จนมันดูพอทนได้ (พี่หนุ่มมาช่วยทาด้วยนะวันนั้น)

ทาเสร็จแล้วก็ยังด่างๆ เนอะ

แต่ไม่เป็นไร ให้มันออกแนวไม้เก่าไง หุ หุ

ที่เห็นในรูปนี่เริ่มร่างรูปด้วยดินสอไม้แล้วค่ะ

นั่งทำไปเรื่อยๆ (ยังไม่เสร็จ...)

เห็นมั๊ย พี่หนุ่มเป็นกำลังใจด้วยการ เล่นคอมฯ... อิ อิ

อันนี้รูปเต็มๆ ตอนเสร็จแล้ว

เกสรมองไม่ค่อยชัดเลยแฮะ ใช้สีอ่อนไปนิ๊ด...

ดูใกล้ๆ เป็นอย่างนี้จ๊ะ

พี่หนุ่มบอกว่า สวย เอาไปขายได้หลายตังส์เลยนะเนี่ย ดีใจๆ มีคนชมแค่นี้ก็พอใจแย๊วววววว....

เอ... ว่าแต่จะเอาไว้วางไว้ตรงไหนล่ะทีนี้....

พิกัดร้าน http://bowhome.blogspot.com/2010/03/blog-post.html

ติดไฟแสงสว่างเพิ่มรอบบ้าน

เนื่องมาจากรอบๆ บ้านจะมืดๆ นะค่ะ พอออกไปทำอะไรนอกบ้าน ก็ต้องใช้ไฟฉาย (โดยเฉพาะหลังบ้าน มืดเชียว)

อีกเวลาเราไม่อยู่บ้าน ตอนกลับมาบ้าน หรือกำลังจะออก เนี่ย ไฟยังไม่ได้เปิดทิ้งไว้ใช่มั๊ยคะ ทีนี้จะไขกุญแจก็ลำบากมากๆ ก็เลยติดไฟ ที่มีเซนเซอร์ ตรวจจับการเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำงานเฉพาะเวลากลางคืน พอเราเดินมาในระยะไฟก็เปิด ตั้งได้นะคะว่าจะให้เปิดนานแค่ไหน แต่นี่ตั้้งไว้ประมาณ ครึ่งนาทีค่ะ

ไฟที่เป็นเซนเซอร์ซื้อมาสองแบบ ไม่ใช่ว่าอยากลองอะไรหรอกค่ะ แต่ตัวไฟที่มีเซนเซอร์ติดร่วมมาด้วย มีแค่ชุดเดียว เลยต้องซื้อแบบแยกมาติดอีกชุด งงเลยเนอะ

แต่ว่าก็ไม่ได้ติดเองจ้างช่างไฟฟ้ามาติดให้ อืม ก็ดีนะ เพราะไม่ต้องทำเอง555 จริงๆ แล้วทำไม่เป็นนั่นเอง กลัวไฟซ๊อตอ่ะ ไม่คุ้มเนอะ

อันนี้เป็นเซนเซอร์แยกจากไฟ ติดทางเข้าหน้าบ้าน

อันนี้เป็นไฟที่มีเซนเซอร์ในตัว ตัวทางเข้าหลังบ้าน

หน้าตาไฟที่ติดรอบๆ บ้าน สามตัว แต่เอาหลอดใหม่มาเปลี่ยนแล้วค่ะ เพราะไม่ชอบสีเหลือง อิ อิ

เตรียมปลูกดอกแพงพวยเลื้อย

แค่เตรียมพร้อมก่อนจ้าาา ยังไม่ได้ลงมือปลูก แต่คาดว่าจะในเร็ววันนี้ จะได้พุ่มสวยเหมือนในรูปรึเปล่า ก็ห้องรอลุ้นกันละค่ะงานนี้

ก่อนอื่นก็ได้สั่งซื้อเมล็ดพันธ์ มาจากwebsite ของ afmgroup.com เข้าไปดู โอโห้ ดอกไม้มากมายหลายพันธุ์ แค่แพงพวยเองยังมีตั้งหลายพันธุ์ ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ย

หาข้อมูลก็เลยได้รู้ว่า ไอ้พันธุ์ที่เค้าเอามาแขวนๆ เนี่ย มันเป็นแพงพวย merditeranean ก็ได้สั่งซื้อมาลองปลูกราคาก็ค่อนข้างแพงเหมือนกันนะ แต่ถ้าปลูกสำเร็จ ก็ถูกกว่าที่เค้าแขวนขายแหละค่ะ เล่นขายกันกระถางละ 100-150 บาท โอว... ม่ายน่าเชื่อเลย

อ้าวลืมบอกราคาเมล็ด เราเลือกซองเล็ก (แต่ไม่ใช่แบบทดลองปลูกนะคะ) 50 เมล็ด ราคา 110 บาท เค้าบอกว่าเปอร์เซนต์การงอก 85% อย่างนี้ก็ คาดว่าจะได้มาประมาณ 42 ต้น กระถางละ 5 ต้น ก็ได้ประมาณ 8 กระถางแหนะ ดีกว่าเสียเงินไปซื้อมาเป็นพันแหละ อิ อิ.... ได้ภูมิใจด้วย....

เลือกสีไม่ถูกก็เลย เอาแบบคละๆ สีมาดีกว่า ดูหวานๆ ดีเหมือนกันนะเนี่ย

เค้าว่าแพงพวยเป็นไม้ดอกที่อดทน ทนต่อแสงแดดได้ดี พอดีจะเอามาประดับตรงรั้วบ้าน ตามเสารั้ว ก็เลยต้องเลือกไม้ดอกทนๆ หน่อย แต่เรื่องน้ำนี่ ดูเหมือนจะขาดน้ำไม่ค่อยได้ ต้องขยันๆ หน่อย

อืม เห็นเค้าว่า พันธุ์เลื้อยต้องขยันเด็ดยอดด้วยน๊าาา ถึงจะได้พุ่มสวย ไว้ยังไงเอามาโชว์นะคะ

ตกแต่งบ้านนกเตรียมไว้ก่อน (2)

วันนี้ว่างๆ ก็เลยตกแต่งบ้านนกต่อ

จากที่เคยลังเลว่าจะตกแต่งยังไงดี วันนี้ตัดสินใจได้ว่าจะเพนท์ดอกซากุระ ใช้ความรู้ที่เรียนมาซะหน่อย เอาแบบมาวางเตรียมตัวทำ แต่ยังไม่ทันจะเริ่มเลย พี่หนุ่มมาบอก จะให้เพนท์ดอกเดซี่ ซะงั้น

น้องโบว์ไม่ค่อยชอบเลย เพราะทำยังไงก็เพนท์ไม่สวย (ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันนะ) แต่พี่หนุ่มบอก เดี๋ยวซื้อบ้านนกมาอีกสิบอันให้เพนท์เล่นเลย แต่อันนี้ขอดอกเดซี่ (ดู ดู๊ ดู ลงทุนซะขนาดนั้น โอเค ก็ได้ ก็ได้)

ก็บอกแล้วว่าไม่เก่ง ผลงานก็เลยออกมาตามนี้

แต่พี่หนุ่มก็ชอบมาก ไม่รู้ทำไม (เฮ้อ! มันไม่ค่อยสวยเลยอ่ะ)

ดูๆ ไปมันก็โล่งๆ เลย เอามาละเลงเพิ่ม พอดีไปเห็นลาย Stencil ใน internet เลย print มาเยอะแยะ เอามาเลือกดู ดันแปลงนิดหน่อย แต่ดูแบบแล้ววาดเองเลย ชอบอันนี้อ่ะ งามกว่าเดซี่อีกนะ ว่าเปล่าคะ

สรุปเพนท์หลังคาไปด้านเดียว สวยมุมเดียว พี่หนุ่มบอก พอแล้ว เดี๋ยวจะรก น้องโบว์ก็ว่างั้นแหละค้าาาา ขี้เกียจแล้ว 5555

พิกัดร้านที่ไปซื้อบ้านนก : http://bowhome.blogspot.com/2010/03/blog-post.html

ตกแต่งบ้านนกเตรียมไว้ก่อน (1)

ซื้อบ้านนกมาตั้งหลายเดือนแล้ว เราสองคนเป็นพวกซื้อมาเก็บไว้ก่อน อิ อิ ร้านเดียวกับที่ทำระแนงไม้ แล้วก็ตู้ไม้เก่านั่นแหละค่ะ

ไม่ได้ถ่ายรูปตอนซื้อมาใหม่ๆ เอาไว้ ก็เลยไปเอารูปมาจากบ้านและสวน หน้าตาเหมือนกันเด๊ะเลย อย่งที่เห็นแหละจ๊ะ

จริงๆ น้องโบว์ก็ว่ามันก็สวยอยู่แล้วนะ แต่พี่หนุ่มอยากได้สีขาว อยากให้เป็นสีขาวทั้งบ้านเลย โอเค ตามใจอยู่แล้วนะคะ น้องโบว์ก็เลยจัดการทาสีให้อย่างที่เห็น

ปูหนังสือพิมพ์ ป้ายๆ ปาดๆ หลายรอบเชียว

มือซนอ่ะ ไม่ชอบ มันเรียบไป เลย ทาที่ยืนหน้าบ้านนก เป็นสีออกฟ้าๆ หน่อย อิ อิ

ไหนลองเอาไปแขวนซิ งามเชียว

ถ่ายจากหลังบ้านเราไปเห็นบ้านด้านหลัง สวนสวยงามเชียว น่าอิจฉาจังเลย T^T

น้องโบว์ว่ามันเรียบๆ กะว่าจะเพนท์เพิ่มสีสันซะหน่อย ยังลังเลระหว่างทำ stencil กับ วาดซากุระ เอาไงดีหนอ แบบไหนนกจะชอบก็ไม่รู้นะคะเนี่ย

หาข้อมูลในการจัดสวนก่อน

ก่อนจะทำอะไร ก็ต้องวางแผนก่อนใช่ป่าว ก่อนอื่นก็ต้องหาข้อมูล อิ อิ

จากรูปนี่แค่ส่วนหนึ่งนะคะ จริงๆ แล้วมีเป็นตั้งเลย สารพัดเล่ม อุดหนุน หนังสือของอัมรินทร์มากมายก่ายกองเลยค่ะ ดีนะที่เป็นสมาชิกหนังสือ room เลยได้ส่วนลดบ้าง 555

ต้องเริ่มศึกษาตั้งแต่ปลูกต้นไม้กันเลยทีเดียว เพราะเราสองคน ดูแลต้นไม้กันไม่เป็นเลยค่ะ ซื้อมาสวยแต่แรก ไม่นานก็ตาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้นไม้เค้าต้องคอยใส่ดินใหม่ให้ด้วย แค่รดน้ำก็ชอบลืมกันแล้ว 555 (จะรอดมั๊ยเนี่ย)

ตอนนี้เริ่มวัดพื้นที่รอบบ้าน แล้วก็ ดูแบบสวนต่างๆ ก็จะเลียนแบบเค้าไง คิดเองไม่เป็น กะว่าจะก๊อป สวนนั้นที สวนนี้ที อิ อิ ฉลาดอ่ะป่าว

เนื่องจากบ้านเราออกจะหวานๆ แบบนี้แล้ว ก็เลยอยากจัดสวนแนว english country แต่ก็รู้สึกว่าแนวนี้รกมากๆ เลย แต่ยังไงซะก็ชอบดอกไม้มากๆๆ อยากปลูกเป็นทุ่งเลย แต่พื้นที่ไม่อำนวย ก็ต้องใช้สมองกันล่ะทีนี้ ก่อนอื่นขอ list ต้นไม้ที่ชอบก่อนนะ

ไม้ยืนต้นใหญ่ - ลีลาวดี

ไม้ดอกยืนต้น- แก้ว, โมก, ชบา, ราตรี

ไม้ดอกเลื้อย- กุหลาบ, เล็บมือนาง, พวงชมพู, ผักบุ้งฝรั่ง

ไม้ดอกไม่ยืนต้น - แพงพวย, บานชื่น, เดซี่, forget me not, ซ่อนกลิ่น, ดอกกระเจียว,ทานตะวัน, ดาวกระจาย, ดอกผีเสื้อ, ดอกเทียนไทย, ไธมอฟิลเลีย, พิทูเนีย, จิปโซ, บาโคป้า

ไม้น้ำ - บัวหลวง

พวกดอกไม้เล็กๆ นี่กะว่าจะปลูกเป็นแปลงดอกไม้เลยค่ะ กะว่าจะปลูกสลับเอา ปลูกไปซักพักมันก็จะเริ่มโรยใ่ช่ป่าว เราก็เอาดอกอื่นมาลง ก็จะหมุนเวียนกัน คงสวยน่าดู น๊านนนนน ฝันหวานเลยเชียว.....

เตรียมตัวจัดสวน สภาพปัจจุบัน

ตอนนี้อะไรๆ ในบ้านก็ค่อนข้างลงตัวแล้วค่ะ ก็ยังเหลือซื้อของใหญ่ๆ ใช้เงินมาก ก็ยังไม่มีเงิน 555 ดังนั้นเลยหยุดไว้ก่อน แต่ว่าช่วงนี้ก็ลองเข้าไปนอนที่บ้านบ่อยขึ้น เพราะจะได้รู้ว่ามีอะไรต้องปรับปรุง ซ่อมแซมบ้าง ประมาณว่าทดลองอยู่อ่ะค่ะ

งานแต่งบ้านก็เริ่มลุกลามออกมาด้านนอกแล้ว ตอนนี้เริ่มหาหนังสือเกี่ยวกับการจัดสวน ดูแลต้นไม้มาอ่านบ้าง ส่วนน้องโบว์ก็ซื้อเมล็ดพันธ์ุดอกไม้มาเพียบ กะว่าจะปลูกเองเลยนะเนี่ย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ลงมือปลูก หุ หุ

สภาพสวนในบ้านก็อุดมสมบูรณ์เหลือเกินค่ะ หญ้าขึ้นสูงท่วมหัวเลย ท่วมจริงๆ นะ ไม่ได้อุปมาอุปมัย ต้นวัชพืชเพียบ แล้วก็ต้นมะขามตรึมเลยค่ะ ถอนซะหมดแรงเลย แต่ก็ยังถอนไม่หมดเลย ค่อยๆ ทำ เพราะยังไม่ได้เริ่มปลูกอะไรเลย กะว่ามาอยู่ก่อนค่อยปลูก จะได้มีเวลาประคบประหงมต้นไม้ ดอกไม้ เป็นไงล่ะ จะท่าดีทีเหลวรึเปล่าต้องรอดูต่อไป คิก คิก

อันนี้มองจากหน้าบ้านไปหลังบ้าน

ด้านหน้าบ้าน มองจากที่จอดรถไปทางบ้านข้างๆ ค่ะ เห็นหญ้าท่วมหัวอ่ะป่าว

มีของเล่นใหม่ ไฟ LED motion sensor จ้า

ไปเดิน Home pro มาจ๊ะ ช่วงนี้เค้าจัดโปรโมชั่นเกี่ยวกับ Lighting พี่หนุ่มว่าจะจ้างเค้าติดไฟรอบๆ บ้าน ด้านนอกด้วย ก็เลยไปเลือกซื้อของเสียหน่อย

เดินไปเดินมา ก็เลยได้ของเล่นกลับมาใช้ภายในบ้านด้วย เป็นไฟ LED ใส่ถ่านค่ะ ไฟจะติดเมื่อมีคนเคลื่อนที่ผ่านในระยะ และจะติดเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น ก็เลยซื้อมาเล่นดู อิ อิ ชอบมากเลย

ตัวแรกเป็นแบบกลมๆ คล้ายไฟฉาย ด้านหลังจะเป็นแม่เหล็ก เอาไปติดตรงไหนที่เป็นเหล็กได้เลยค่ะ

ตามรูปมีปุ่มปรับ 3 ระดับ

on-เปิดตลอด

off - ปิดตลอด

auto - เปิดก็ต่อเมื่อจับการเคลื่อนไหวได้ ในเวลากลางคืนค่ะ (จะเปิดประมาณ 60 วินาที)

อันนี้เลยเอามาติดด้านข้างตู้เย็น หันไปทางด้านห้องนอน ประมาณว่า ออกมาจากห้องนอนจะเดินไปห้องโถง แถวๆ นั้น แป๊บๆ จะได้ไม่ต้องเปิดไฟ

พอลองทดสอบดูแล้ว สว่างพอตัวเลยค่ะ แต่คงไม่สว่างเท่าไฟปกติหรอกนะ ก็ประมาณไฟฉายอ่ะ

ด้านล่างนี้จะเป็นอีกแบบ หน้าตาเป็นสี่เหลี่ยม ทำงานคล้ายกัน แต่ปุ่มปรับจะอยู่ด้านหลัง ต้องเปิดที่ใส่ถ่านออกมาก่อนแล้วถึงเห็น ตัวนี้ จะปรับละเอียดกว่านิดนึง ตรงเวลาที่แสงไฟเปิด จะให้ค้าง 10 วินาที หรือ 60 วินาที ก็ได้จ้าาาา

ตัวนี้เอามาติดตรงบัวพื้น ในห้องนอน เพราะมีปัญหาว่าสวิตซ์ไฟห้องนอนอยู่ไกล ประตูซะเหลือเกิน เปิดปะกะตู มาหาไฟม่ายเจอ (ต้องโทษคนออกแบบบ้านนะเนี่ย สอบตก คิก คิก) พอติดแล้ว ทดสอบดู เดินเข้ามา พรึ๊บ สว่าง หาไฟเจอแล้ววววว แล้วก็ไปเปิดไฟอีกที work นะเนี่ย ชอบมาก

สนนราคา ตัวละ 2xx-3xx จำไม่ได้ แล้วก็ depend on promotion ด้วยเนอะ

ข้อเสียคือ ตอนกลางคืน เปิดไฟ สว่างแล้ว เดินผ่านก็ดันทำงานซะนี่ (หักคะแนนตรงนี้ เพราะทำให้เปลืองถ่าน 555)

Internet มาแล้วรวดเร็วทันใจเสียจริง

ผ่านเรื่องยุ่งยากมาหลายอาทิตย์ที่ไม่ได้มาเขียนเล่าอ่ะค่ะ เริ่มจากเราคิดจะติด internet กับ โทรศัพท์ที่บ้าน โทรไปคุยกับ magnet ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็น 3bb ให้งงเล่นซะงั้น ตามโบชัวร์ที่มาแหมะไว้ในตู้จดหมายหน้าบ้าน คุยกันไม่กี่คำ จะมาเดินสายทิ้งไว้ให้เลย แต่ช้าก่อน พอลองดูหน้าบ้าน ทำไมไม่มีสายโทรศัพท์โผล่รอหน้าบ้านเหมือนหลังอื่นๆ หว่า พี่หนุ่มก็เลยเปิดฝ้าไปดู งงอ่ะ สงสัยไม่ได้เดินสายไว้

ที่นี้ก็เลยโทรไปที่โครงการให้ดำเนินการด้วย สุดท้ายผู้รับเหมาก็มาเดินสายให้พร้อมกับสายอากาศที่เดินลอยๆ เอาไว้ T^T (แต่กว่าจะมาได้ เล่นตัวชะมัดเลย เลื่อนแล้วเลื่อนอีก อย่างเซ็งเลยค่ะ)

วันเสาร์ที่ผ่านมาผู้รับเหมาพร้อมช่างไฟก็มาเดินสาย ใช้เวลาไม่ถึงชั่่วโมงก็เสร็จ เราก็เลยโทรไปที่ 3bb ชลบุรี คุยกันก็บอกให้มาจ่ายตังส์ที่สำนักงานที่พระยาสัจจาเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเดินสายให้เลย อะไรจะเร็วปานนั้น(คิดในใจ)

เราก็ไม่รอช้า รีบไปจ่ายตังส์ ตอนออกไปทานข้าวเที่ยง พร้อมกับซื้อของที่ Homepro เสียตังส์ไปทั้งสิ้น 9XX บาท ถูกดีเนอะ ราคานี้เป็นแบบผูกมัดต้องใช้อย่างน้อยหนึ่งปี เค้าว่างั้นค่ะ จะได้ เราเตอร์มาหนึ่งตัวด้วย ให้มาเอาวันหลัง โอเค เรียบร้อย

ทีนี้ระหว่าง shopping อยู่ ก็โทรมาบอกให้มาเอาของได้แล้ว ดีเนอะไวดีจัง ก็เลยแวะเอาตอนขากลับบ้าน แต่ที่น่าตกใจ ช่างโทรมาบอกว่าจะเข้าไปเดินสายที่บ้านเลย เราก็บอกว่าไม่อยู่บ้านอ่ะ ช่างก็ว่าไม่เป็นไร ถ้ามีสายรอหน้าบ้าน เค้าก็เดินสายให้ได้เลย แต่สัญญาณปล่อยมาเมื่อไหร่จะโทรแจ้งอีกที ..... โอเช เลย ไม่ว่ากัน ตามสะดวกครับพี่....

กลับมาบ้าน เดินสายเรียบร้อยแล้ว เย้ ลองเสียบดูดีกว่าเผื่อฟลุ๊คใช้งานได้ ..... อืม ยังแฮะ... ไม่เป็นไร... แค่นี้ก็เร็วทันใจแล้ว

เช้ามา ก็คนมันบ้าเห่ออะเนอะ เลยลองเปิดดู ตื่นเต้น มีสัญญาณวิ่งๆ มาด้วย พอดีไม่ได้ใช้เร้าเตอร์ของ 3bb ลองเล่น internet ก็ไม่ได้ (ก็ยังไม่ได้ setup นี่น่า) เลยลองเสียบเร้าเตอร์ของเค้า ... โห ดีใจจังใช้ได้แล้ว...

เนื่องจากเราอยากใช้ wireless ก็เลยต้องมาปลุกปล้ำกับเร้าเตอร์ของ belkin พักใหญ่ จนใช้งานได้ในที่สุด ทดสอบดูหนัง บางรักซอย9 ของเมื่อวาน work work เร็วกว่าที่ apartment มากมาย อิ อิ

สรุป ประทับใจในความรวดเร็วของ 3bb มากเลยค่ะ สรุป ติดตั้ง internet วันเดียว ใช้งานได้ (เป็นไปได้หรือเนี่ยในประเทศไทย ม่ายน่าเชื่อเลย หุ หุ )

review ตู้เย็น toshiba จ๊ะ

เอาล่ะ สุดสัปดาห์ได้เข้าบ้าน ก็เลยถ่ายรูปตู้เย็นมา (ไม่ค่อยเห่อเลยนะเนี่ย) ก็อย่างที่เคยบอกไว้นะคะ อันนี้เป็นตู้เย็น toshiba 13.6 คิว หน้าประตูเป็นกระจก จากรูปแรกเลย ประตูเป็นกระจก ก็เลยติด magnet ด้านข้างซะเลย 555

เรื่องของเทคโนโลยีไม่่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่ค่ะ เอาแบบที่ชอบ แล้วก็ขนาดจุได้เยอะๆ (แต่ขอถูกๆ) อิ อิ เพราะเนื่องจากบ้านไกลจากแหล่งชุมชน ก็เลยจำเป็นต้อง stock ของไว้ในตู้เย็นพอสมควร ถึงแม้จะอยู่สองคนก็เถอะ

ด้านบนช่องแข็ง มีที่ทำน้ำแข็ง แต่ไม่ auto เพราะถ้า auto ก็แพง 555 ช่องใหญ่น่าดู ยังไม่ได้แช่อะไรเลย แต่ถ้ามาอยู่จริงก็เป็นช่องใส่เนื้อสัตว์นั่นแหละเนอะ ดูแล้วใส่ได้เยอะทีเดียว

ด้านล่างก็ใหญ่โต ดูดิ ยังไม่มีอะไรมาใส่เลย เพราะจนไง อิ อิ แต่ที่ชอบมากๆ ก็คือไฟสีฟ้าๆ ค่ะ ให้ความรู้สึกเย๊นเย็น ยังไงก็ม่ายรู้ พี่หนุ่มชอบที่วางขวดน้ำ เพราะมันเอนๆนิดๆ หยิบง่ายดี ...

สรุป ก็พอใจนะคะ โดยส่วนใหญ่น้องโบว์กับพี่หนุ่ม จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องตู้เย็นซักเท่าไหร่ ขอแค่มันทำความเย็นได้ ก็พอใจแล้ว เรื่องรักษาความสด กับกำจัดกลิ่น อะไรพวกเนี่ยเครื่องนี้ก็มี แต่ยังไม่ได้ทดลองใช้เท่าไหร่ก็เลยไม่รู้ว่าเริ่ดรึเปล่า

ทบทวนงานเพ้นท์ อีกแล้ว

ทิวลิปนี่ เพิ่งเสร็จหมาดๆ เลยค่ะ นั่งเพ้นท์ตั้งหลายวันแหนะค่ะ กลับไปที่บ้านวันเสาร์ อาทิตย์ เมื่อไหร่ว่างๆ ก็หยิบพู่กัน แต่บางทีมีช่างมาที่บ้าน ก็เขินไม่ทำดีกว่า ก็เลยกว่าจะเสร็จ กินเวลา ตั้งสองอาทิตย์เลยล่ะ ว่าแต่คราวนี้ยังเหมือนนกอีกรึเปล่าเนี่ย

จริงๆ จะเรียกว่าทบทวนไม่ได้นิ เพราะดอกนี้ไม่ได้เรียน เป็นพี่แก้วต่างหากที่เรียนเพ้นท์ใส่ตู้ยา วันที่ไปเรียนด้วยกันวันนั้นไง 555

พี่แก้วได้ Direction กลับมา ก็เลยขอเอามาลองซะหน่อย อิ อิ ไม่ต้องเสียตังส์เรียน ดีจัง ลองระบายสีเอง

เป็นยังไงบ้างสวยอ่ะป่าว มองไปมองมา หน้าตาก็คล้ายๆ ดอกเข็มยังไงก็ไม่รู้เนอะ 555 ฝึกฝีมือ เดี๋ยวเปิดเทอมต้องไปเรียนเพิ่มเติมอีก จะได้เก่งๆ คิก คิก

ได้มาแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้า ตัวโต๊ โต

แท๊น แท่น แทนนนน

มาแล้วจ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะทำให้เราอยู่บ้านได้ ของมาส่งแต่เช้าในวันอาทิตย์ ช่างก็ขนของลง แป๊บๆ เสร็จ ไม่ต้องติดตั้งอะไรเลยเหรอ เราก็เง็งๆ นิดๆ โอเค ทำเองก็ได้ งึมๆ

ปรากฏว่ามีขลุกขลัก ไม่ราบเรียบ โรยด้วยกลีบกุหลายเลยนิ

เริ่มจาก ทาง powerbuy ลืมใบรับประกันของตู้เย็น กับ พัดลม toshiba ที่เป็นของแถมของตู้เย็น แหมๆ เพิ่งคุยกับพี่หนุ่มเลย ว่าอ่านตามเว๊บ พวกร้านพวกนี้ ชอบตุกติกของแถม .... โห พูดอะไรได้อย่างนั้นเลย เซ็งเป็ด....

ก็โทรไปทวง จริงๆ ของแถม เราสองคนไมได้ซีเรียสนะ กะว่าจะเอาไปบริจาคอยู่แล้ว แต่ใบรับประกันนี่ดิ แล้วถ้าเครื่องมีปัญหาจะทำไงละจ๊ะ ต้องติดตามต่อไปว่า powerbuy จะรักษาคำพูดอ่ะป่าว

นี่จ้า ตู้เย็น

เดี๋ยวคราวหน้าจะโชว์ภายในนะ ไฟสวยดีชอบๆ หน้าตู้เป็นกระจก เลยติดแม่เหล็กไม่ได้ มาติดด้านข้างแทน (ก็อุตสาห์ซื้อ magnet มาแล้วนี่นา) แต่ก็ยังมีข้อข้องใจ เนื่องจากตู้เย็นปลั๊กมีแค่สองขา แต่ในคู่มือบอกควรติดตั้งสายดิน (ก็แล้วทำไมไม่ทำสามขานิ) ทีนี้จะทำไงล่ะ ทำไม่เป็นอ่ะ จะถูกไฟดูดอ่ะป่าวเนี่ยะ

ตัวต่อมาเป็นเครื่องซักผ้า Electrolux หน้าตาสวยงาม ว๊าวๆ รุ่นนี้มีหน้าจอด้วย

เป็นไงล่ะแหล่มป่าว

พี่หนุ่มทำการติดตั้ง ท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง (วุ่นวายอยู่คนเดียว) ลองทดสอบ รั่วซ้าาาาา........

แต่ยังไงก็ไม่พ้นความสามารถของพี่หนุ่มหรอกใช่ป่าว เดี๋ยวสัปดาห์หน้าไปแก้ไขใหม่ อิ อิ

ลองเอาผ้าไปซักไม่กี่ชิ้น แต่ใส่ผงซักฟอกเยอะไปอ่ะ เลยต้องเพิ่มโปรแกรมล้างน้ำเปล่า หุ หุ เท่าที่ทดสอบ ใช้งานง่ายมากๆ อืม ดีเลย เหมาะกับคนไม่ค่อยจะฉลาดอย่างเรา 555

สุดท้ายเป็นเครื่องอบผ้าแบบควบแน่น ไม่ปล่อยลมร้อนออกมา ใช้งานง่ายมากๆ แต่เสียอย่างเดียว ไม่รู้ว่ามันจะเสร็จตอนไหนอ่ะดิ เนื่องจากรุ่นที่ซื้อไม่มีจอ (ประหยัด คิก คิก)

ทดลองอบแล้ว ผ้าฝ้ายเลือกโหมดเก็บเข้าตู้เสื้อผ้า ปรากฏว่าใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง แจ่มเลยจ้าาาา

สรุปเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกตัวที่เลือกมา ใช้งานได้ ไม่มีปัญหาที่ตัวเครื่อง แค่นี้ก็สบายใจแล้ว ถ้าขยันอาทิตย์หน้าจะมา review แบบละเอียดเลยจ้าาาาา

เริ่มซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วล่ะ

ในที่สุด เราสองคนก็ตัดสินใจซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวโตๆ ล๊อตแรก ค่ะ ตัดสินใจกันนานทีเดียว จริงๆ ตั้งใจจะซื้อช่วงปีใหม่ เพราะคิดว่าน่าจะมีโปรโมชั่นดีๆ ออกมา แต่ว่าเราสองคนอยากมาลองอยู่บ้านช่วงวันหยุด จะได้ดูด้วยว่าจะต้องเรียกให้โครงการมาดูซ่อมอะไรเพิ่มเติม บางอย่างถ้าเราไม่เข้าอยู่ มาแป๊บๆ ก็อาจไม่เห็นเนอะ เพราะฉะนั้นก็เลยอยากได้ตู้เย็นก่อนเลย จำเป็นมากม่ายงั้นอดตาย 555

เราสองคน หาข้อมูล เก็บโบชัวร์กันมามากมาย สรุปกันเอาไว้ว่า เราจะเอาตู้เย็น Hitachi รุ่นที่มีสามประตูรุ่นนี้ไง ดูกันเอาไว้ แต่พอไปซื้อไหงได้โตชิบามา แล้วกัน งงตัวเองเจงๆ

เรามาตกลงปลงใจกับ powerbuy เซ็นทรัลชลบุรี อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้เซลล์ ที่นี่ให้ข้อมูลดีไม่ยัดเยียดอ่ะ แล้วก็ไม่เชียร์ยี่ห้อบางยี่ห้อออกนอกหน้ามากเกิน

สรุปว่าวันนั้นตู้เย็นได้ Toshiba รุ่น GR-RG46KD GS ราคาประมาณสองหมื่น ผ่อนค่ะ ผ่อน อันนี้ได้โปรผ่อนสี่เดือน ตกสามพันกว่าๆ (ถ้าเลือกสีดำ ได้ผ่อน 10 เดือนแหนะ แต่กลัวไม่เข้ากับบ้าน ก็เลย ผ่อนสี่เดือนก็สี่เดือน T^T สู้ๆ)

ส่วนเครื่องซักผ้า กับอบผ้า ตอนแรกเตี๊ยมกันมา จะเอา Siemens เครื่องอบต้องแบบลมร้อนเท่านั้น เราจะเลือกอันถูกที่สุด ฟังก์ชันไม่ต้องมาก.....

แต่พอเอาเข้าจริง ก็ขำดีค่ะ ไม่ได้อย่างที่คิดไว้เลย สรุปว่าได้ Electrolux เครื่องอบก็ได้รุ่นแบบควบแน่น ซะงั้น พรหมลิขิตบันดาลชักพา... จริงๆ แล้วมีเหตุผลค่ะ

1. ใน spec พอๆ กันกับ siemens ของ electrolux ราคาถูกกว่า (อันนี้ตัดยี่ห้อเกาหลีออกนะคะ ม่ายค่อยไว้ใจ กลัวสวยแต่รูป จูบไม่หอม 555)

2. ตัวถูกๆ หมดสต๊อกจ้าาาา แล้วโปรผ่อนก็ไม่ค่อยจาดี เราเลือกรุ่นที่ให้โปรดีด้วยอ่ะ (ก็คนไม่มีตังส์นิน่า)

3. ตอนแรกเครื่องอบเราเลือกแบบลมร้อน แต่ใจพี่หนุ่มอยากได้ควบแน่น ก็ได้ตามใจ แต่เหลือแต่ตัวโชว์ 34,900 เค้าก็ใจดีถ้าเอาจริงลดให้บวกส่วนลดซื้อคู่ซักกับอบ เหลือ 26,000 แต่ผ่อนไม่ได้ แง แง พี่หนุ่มไม่ยอมเปลี่ยนใจ ก็เลยได้รุ่นนี้และ

เครื่องซักผ้า EWF1073

เครื่องอบผ้า EDC67150W

รอลุ้นวันมาติดตั้งว่าจะเป็นยังไง วันอาทิตย์นี้ ถ้าติดตั้งเสร็จไม่มีปัญหาจะเอามาอวดนะจ๊ะ

มาแล้วเฟอร์นิเจอร์หวาย ที่รอมาตั้งนาน

ไม่ได้ update เกี่ยวกับบ้านมาตั้งนาน เพราะไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่เลย จริงๆ ก็คืบหน้าอ่ะแหละ แต่มันไม่เป็นชิ้นเป็นอันที่สามารถจะถ่ายรูปออกมาได้ เอาล่ะคราวนี้ได้ผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เลยขออวดซะหน่อย อิ อิ

ดูภาพรวมก่อนนะคะ จะเห็นว่าเริ่มรกแฮะ ของเริ่มมากขึ้นๆ

ชุดเฟอร์นิเจอร์หวายสั่งทำ เลียนแบบในหนังสือบ้านเล่มนึงอ่ะ แต่เราออกแบบขนาดเอง ตัวโซฟา เลยสั่งใหญ่บิ๊กเบิ้มกะว่านอนได้สบายๆ เลย 555 ยาว 2 เมตรกว่าๆ ลึก 1 เมตร ก็กะเอาไว้นอนกลางวัน ครอกฟี๊ๆ

ร้านที่ทำ เป็นร้านเล็กๆ สองคนสามี ภรรยา ร้านก็โทรมมากๆ เลยค่ะ คนทำก็อารมณ์ศิลปิน เลยเป็นโรคเลื่อน เลื่อนซ้าาาา จนกลัวๆ ว่าจะโดนต้มรึเปล่านะเนี่ย แต่ในที่สุดก็ได้มาเชยชม หุ หุ

เก้าอี้โยก อันนี้เอาไว้ในห้องนอน เป็นที่พาดผ้าเช็ดตัว (ม่ายช่าย...ล้อเล่น...) ตัวนี้ก็ใหญ่เอาเรื่องเหมือนกันนะคะ ใหญ่จนเอาเข้าประตูห้องนอนไม่ได้ แต่เราสองคนก็สามารถเอามาวางในห้องนอนจนได้ อยากรู้ใช่ป่าวว่าทำไง ก็เข้าทางหน้าต่างไง 555 ต้องเลาะบานกระจกออกหมดเลยอ่ะ แต่สามารถอยู่แล้ว ....

หมอนใบเล็ก ปอกหมอนสุด ไฮโซ จาก Jim Thomson เชียวนะ คนจ่ายตังส์เหงื่อตกติ๋งๆ ก็อยากซื้อของไม่ดูราคานี่นา เป็นไงล่ะ 555 แต่ยังไงก็สวยมากเนอะ ว่าป่าว

นอกนั้นเอามารวมกันเป็นชุดรับแขก (เย้ มีชุดรับแขกกับเค้าด้วย) ตัวใหญ่อลังการ นอนได้สบายๆ เลย

อ้อ สังเกต ด้านหลังเป็นลูกปัดร้อย ระยิบระยับ อันนี้ร้อยกันเองนะจ๊ะ เป็นไงล่ะ ลอกไอเดียมาจากอินเด็กซ์นะเอง เอามาดันแปลงนิดหน่อย อยากนำเสนอมาก เพราะทุ่มเททำกันหลายวันเลยนะ อิ อิ วันหลังถ่ายใกล้ๆ มาโชว์ดีกว่า แต่ยังไม่เสร็จดี เพราะว่าจะติดอะไรเพิ่มเติมนิดนึง อดใจรอดูต่อนะจ๊ะ

แถมท้ายเป็นโต๊ะทานข้าวที่ไปซื้อผ้าปูโต๊ะพลาสติกมาปู หวานดีเนอะ ไม่เคยคิดฝันจะใช้ผ้าปูพลาสติก เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่พอปูแล้ว ก็สวยดีน๊าาาาา...